เมื่อพูดถึงการรักษาและฟื้นฟูอาการปวดกระดูกและข้อ หลายคนอาจนึกถึงยาแก้ปวดหรือการผ่าตัดเป็นอันดับแรก แต่รู้หรือไม่ว่า "ธาราบำบัด" หรือการบำบัดด้วยน้ำ เป็นอีกทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและข้อ
ธาราบำบัด (Hydrotherapy) คือการใช้น้ำในรูปแบบต่างๆ เพื่อบำบัด รักษา และฟื้นฟูสภาพร่างกาย โดยอาศัยคุณสมบัติพิเศษของน้ำ ไม่ว่าจะเป็นแรงลอยตัว แรงต้านทาน และความร้อนหรือความเย็น มาช่วยในการรักษา ซึ่งมักทำในสระน้ำควบคุมอุณหภูมิที่ประมาณ 33-35 องศาเซลเซียส ภายใต้การดูแลของนักกายภาพบำบัดที่มีความเชี่ยวชาญ
1. ลดแรงกระแทกและแรงกดทับบนข้อต่อ
น้ำมีคุณสมบัติพยุงร่างกาย ทำให้น้ำหนักตัวลดลงถึง 90% เมื่ออยู่ในน้ำลึกระดับคอ ซึ่งช่วยลดแรงกดทับที่ข้อต่อและกระดูกสันหลัง ทำให้ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากขึ้น โดยไม่เจ็บปวด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อม ข้อสะโพกเสื่อม หรือปวดหลัง
2. เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยไม่เพิ่มแรงกดทับข้อ
การออกกำลังกายในน้ำต้องต่อสู้กับแรงต้านของน้ำ ซึ่งช่วยสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อรอบข้อต่อ แต่เนื่องจากแรงลอยตัวช่วยพยุงร่างกาย จึงไม่เพิ่มแรงกดทับบนข้อเหมือนการออกกำลังกายบนบก เป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อที่ปลอดภัยสำหรับผู้มีปัญหาข้อ
3. ช่วยเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของข้อ (Range of Motion)
ความอุ่นของน้ำช่วยให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อรอบข้อคลายตัว ทำให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้มากขึ้น ร่วมกับแรงลอยตัวที่ช่วยลดความเจ็บปวดขณะเคลื่อนไหว จึงสามารถฝึกการเคลื่อนไหวข้อได้มากกว่าบนบก เหมาะสำหรับการฟื้นฟูหลังผ่าตัดข้อหรือกระดูก
4. ลดอาการปวดและอักเสบ
อุณหภูมิของน้ำที่อุ่นช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อ และลดอาการอักเสบของข้อต่อ ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์หรือโรคข้อเสื่อมมักได้รับประโยชน์จากการบำบัดในน้ำอุ่น เพราะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดีโดยไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวดมากเกินไป
5. ลดภาวะข้อติดและการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
การเคลื่อนไหวในน้ำอย่างสม่ำเสมอช่วยป้องกันภาวะข้อติดและการหดเกร็งของกล้ามเนื้อที่มักเกิดขึ้นในผู้ป่วยที่เคลื่อนไหวน้อย เช่น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยพาร์กินสัน หรือผู้ที่ต้องนั่งรถเข็น
6. ฟื้นฟูการทรงตัวและประสาทรับความรู้สึก
การเคลื่อนไหวในน้ำต้องอาศัยการทรงตัวที่ดี การฝึกในน้ำจึงช่วยพัฒนาระบบประสาทรับความรู้สึกและการทรงตัว เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการหกล้ม หรือผู้ที่มีปัญหาการทรงตัวจากโรคทางระบบประสาท
7. ลดความเครียดและความวิตกกังวล
ธาราบำบัดเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาต่อไปนี้: โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) อาการปวดหลังเรื้อรัง ผู้ป่วยหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าหรือข้อสะโพก กระดูกหัก หรือหลังการผ่าตัดกระดูก โรคกระดูกพรุน ผู้ที่มีปัญหาสมดุลร่างกายหรือการทรงตัว ผู้สูงอายุที่ต้องการออกกำลังกายแบบปลอดภัย ข้อควรระวัง แม้ธาราบำบัดจะมีประโยชน์มาก แต่ไม่เหมาะกับทุกคน ผู้ที่มีอาการต่อไปนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการบำบัด: มีบาดแผลเปิด มีไข้หรือการติดเชื้อ มีปัญหาโรคผิวหนังบางชนิด มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจรุนแรง มีความดันโลหิตที่ควบคุมไม่ได้ ผู้ที่กลัวน้ำอย่างรุนแรง