โรคเก๊าท์: ปวดข้อแบบเฉียบพลัน รักษาได้ถ้ารู้ทัน!!
โรคเก๊าท์ (Gout) เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดจากการสะสมของกรดยูริก (uric acid) ในเลือดที่สูงเกินไป
ทำให้ตกผลึกในข้อและเนื้อเยื่อรอบข้าง
โดยมักแสดงอาการด้วยการปวด บวม แดง ร้อน บริเวณข้ออย่างเฉียบพลัน โดยเฉพาะที่ข้อหัวแม่เท้า
‼️สาเหตุ
- ภาวะกรดยูริกในเลือดสูง จากการที่ร่างกายสร้างมากเกินไปหรือขับออกน้อยเกินไป
- พฤติกรรมการกิน เช่น การกินอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล น้ำตาลฟรุกโตส หรือดื่มแอลกอฮอล์มาก
- โรคประจำตัว เช่น โรคไต ความดันโลหิตสูง เบาหวาน
- กรรมพันธุ์ มีแนวโน้มเกิดในคนที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคเก๊าท์
🦶อาการ
- ปวดข้อเฉียบพลัน มักเกิดตอนกลางคืน
- ข้อบวม แดง ร้อน มักเริ่มที่ข้อเดียว เช่น ข้อนิ้วหัวแม่เท้า ข้อเท้า หรือเข่า
- หากไม่ได้รักษา อาจเกิดข้ออักเสบเรื้อรัง หรือก้อนโทฟัส (Tophus) จากการสะสมของผลึกยูเรต
🔍การวินิจฉัย
- ตรวจระดับกรดยูริกในเลือด
- เจาะน้ำในข้อดูผลึกยูเรต
- เอ็กซเรย์ข้อในรายที่มีอาการเรื้อรัง
💊การรักษา
- ยาแก้อักเสบ เช่น NSAIDs, Colchicine, หรือ Steroid ในระยะเฉียบพลัน
- ยาลดกรดยูริกในเลือด เช่น Allopurinol หรือ Febuxostat ในระยะยาว
- ปรับพฤติกรรม: ลดน้ำหนัก เลี่ยงอาหารพิวรีนสูง ดื่มน้ำมากๆ และงดแอลกอฮอล์
✅✅✅สรุป
โรคเก๊าท์เป็นโรคที่รักษาและควบคุมได้ หากวินิจฉัยตั้งแต่ระยะแรก และปรับพฤติกรรมอย่างเหมาะสม
หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังและข้อเสียหายถาวรได้
หากคุณมีอาการปวดข้อซ้ำ ๆ โดยเฉพาะตอนกลางคืน อย่าละเลย!
รีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการดูแลที่เหมาะสมครับ
← กลับหน้าหลัก